คู่มือการตั้งค่า WISP Router Mode เพื่อขยายสัญญาณ Wireless

( รับจาก Wireless แล้วกระจายเป็น Wireless และ สาย LAN พร้อมกับสร้างวง LAN ใหม่ )




Tenda W1500A
150Mbps Wireless-N Outdoor Long Range AP/CPE



การประยุกต์ใช้ และความหมาย


     WISP Router Mode จะมีหลักในการทำงาน คล้ายกับ Universal Repeater Mode คือ W1500A จะรับสัญญาณ Wireless จากตัวหลักที่ปล่อยสัญญาณ Wireless มา แล้วก็จะกระจายต่อด้วยการ NAT มาอีกทีหนึ่ง ซึ่งจะทำให้ IP Address ที่อยู่หลัง W1500A ที่ WISP Mode เป็นคนละวง LAN กับตัวหลัก เพื่อแชร์ Internet ต่อให้กับ Wireless Client ต่าง ๆ อาทิ Computer PC, Netbook, Notebook, Smart Phone,
Tablet เป็นต้น และปล่อยต่อออกมาเป็นสาย LAN ให้อุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น Computer PC, DVR, Printer Server เป็นต้นครับ ดังรูป




สำหรับการเสียบสาย LAN เพื่อตั้งค่านั้น มีขั้นตอนดังนี้


     เสียบสาย Power Adapter จ่ายไฟเข้า PoE Injector, เอาสาย LAN เสียบระหว่างช่อง PoE ของ Injector เข้ากับช่อง PoE WAN/LAN ของ W1500A, เอาสาย LAN เสียบระหว่างช่อง LAN ของ W1500A เข้า LAN ของเครื่อง Computer PC หรือ Notebook ที่ใช้ตั้งค่า ดังรูป




Fix IP Address ของเครื่อง


     เนื่องจาก โหมด Default ของ W1500A มาเป็น Access Point โหมด ซึ่งจะไม่มีการแจก IP Address มาให้เครื่อง Computer PC ที่จะเข้าไปตั้งค่า ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำการ Fix IP Address ของ W1500A ก่อน ดังตัวอย่างต่อไปนี้

สำหรับ Windows XP

     จากหน้า Desktop ให้คลิกที่ Start > Control Panel > Network and Internet Connections



     เข้ามาในหน้าต่าง “ Network Connections “ จะเห็นไอคอนหลายไอคอน ให้คลิกขวาที่ไอคอน “ Local Area Connection “ ซึ่งเป็น  LAN ของเครื่อง Computer ที่เสียบสายเข้ากับ W1500A อยู่ แล้วเลือก Properties



     ในหน้าต่าง “ Local Area Connection Properties “ ให้คลิกที่บรรทัด “ Internet Protocol [TCP/IP] “ ให้เป็นแถบสี แล้วกดปุ่ม  “ Properties “ เสร็จแล้ว ** อย่าคลิกเอาเครื่องหมายถูกตรงช่องสีเหลี่ยมออกนะครับ


     ในหน้าต่างใหม่ ( รูปบนขวา ) ให้เลือก “ Use the following IP address “ แล้วกรอก IP Address ในช่องเป็น IP Address ที่ขึ้นต้นด้วย  192.168.2.xxx ( ในตัวอย่างตั้งเป็น 192.168.2.12 ) ส่วน Subnet Mask ก็ให้คลิกที่บรรทัด ช่องไหนก็ได้ แล้วจะมีค่าให้อัตโนมัติเอง คือ  255.255.255.0 ส่วน Default Gateway, DNS Server ไม่ต้องใส่นะครับ เพราะ Fix IP เพื่อจะเข้าไปตั้งค่า W1500A เท่านั้น พอเซตตั้งค่าเสร็จ
ก็จะต้องกลับเข้ามาตั้งเป็น “ Obtain an IP address automatically “ เหมือนเดิมครับ

Note : หลังจากตั้งค่าเสร็จแล้วก็ให้กดปุ่ม OK และ OK ออกมาเรื่อย ๆ จนหน้าต่างย่อยหายหมด และกลับมาที่หน้าต่าง “ Network Connection “ อีกครั้งก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการตั้งค่า Fix IP Address ของเครื่อง Computer แล้วครับ

สำหรับ Windows 7

     จากหน้า Desktop ให้คลิกที่ Start > Control Panel > Network and Internet > Network and Sharing Center แล้วคลิกที่เมนูลัดด้านซ้ายมือ “ Change adapter settings “


     เข้ามาในหน้าต่าง “ Network Connections “ จะเห็นไอคอนหลายไอคอน ให้คลิกขวาที่ไอคอน “ Local Area Connection “ ซึ่งเป็น  LAN ของเครื่อง Computer ที่เสียบสายเข้ากับ W1500A อยู่ แล้วเลือก Properties




     ในหน้าต่าง “ Local Area Connection Properties “ ให้คลิกที่บรรทัด “ Internet Protocol Version 4 [TCP/IP] “ ให้เป็นแถบสี แล้วกดปุ่ม “ Properties “ เสร็จแล้ว ** อย่าคลิกเอาเครื่องหมายถูกตรงช่องสีเหลี่ยมออกนะครับ



     ในหน้าต่างใหม่ ให้เลือก “ Use the following IP address “ แล้วกรอก IP Address ในช่องเป็น IP Address ที่ขึ้นต้นด้วย  192.168.2.xxx ( ในตัวอย่างตั้งเป็น 192.168.2.12 ) ส่วน Subnet Mask ก็ให้คลิกที่บรรทัด ช่องไหนก็ได้ แล้วจะมีค่าให้อัตโนมัติเอง คือ  255.255.255.0 ส่วน Default Gateway, DNS Server ไม่ต้องใส่นะครับ เพราะ Fix IP เพื่อจะเข้าไปตั้งค่า W1500A เท่านั้น พอเซตตั้งค่าเสร็จ
ก็จะต้องกลับเข้ามาตั้งเป็น “ Obtain an IP address automatically “ เหมือนเดิมครับ


     หลังจากตั้งค่าเสร็จแล้วก็ให้กดปุ่ม OK และ OK ออกมาเรื่อย ๆ จนหน้าต่างย่อยหายหมด และกลับมาที่หน้าต่าง “ Network Connection “ อีกครั้งก็ถือเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการตั้งค่า Fix IP Address ของเครื่อง Computer แล้วครับ


การตรวจสอบ IP Address ของตัวหลัก


     ตรวจสอบ IP Address ของ Modem Router หรือ วง LAN ต้นทางว่าเป็น วง LAN ที่ใช้ IP Address ชุดไหน เช่น 192.168.1.xxx หรือ  192.168.2.xxx เป็นต้น เพื่อตรวจสอบว่า IP Address ของ W1500A กับตัวหลักอยู่ใน Subnet IP เดียวกันหรือไม่

ตัวอย่างที่ 1 : การตรวจสอบวง LAN จาก Modem Router ยี่ห้อ Zyxel จะเห็นว่าเป็น Subnet IP = 192.168.1.xxx



ตัวอย่างที่ 2 : อีกตัวอย่างในการตรวจสอบวง LAN จาก Router ของ BELKIN จะเป็น Subnet IP = 192.168.2.xxx



     หลังการของการทำ WISP Router คือ IP Address ของตัวหลัก หรือวง LAN ตัวหลัก จะต้องไม่เป็น Subnet เดียวกันกับ W1500Aครับ เช่น ถ้าตัวหลักตั้งไว้เป็นวง 192.168.1.1 ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าวง LAN ของตัวกลักเป็น 192.168.2.1 อันนี้จะทำให้ WAN ของ W1500A จะขึ้นสถานะของการเชื่อมต่อว่า “ Connecting “ ไม่ยอม “ Connected “ ครับ

Note :  ต้องเปลี่ยน IP Address ใน W1500A เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา Subnet เดียวกันกับตัวหลัก โดยดูวิธีตามตัวอย่างข้อ 6 ครับ

เตรียมตัวก่อนตั้งค่า WISP Router Mode


     เตรียมรหัสผ่านของ Wireless ตัวหลัก เพื่อความรวดเร็วในการตั้งค่า โดยใน 2 ตัวอย่างด้านล่างคือการตรวจสอบจาก Wireless ตัวหลักครับ

ตัวอย่างที่ 1 : การตรวจสอบ Wireless Security ใน D‐Link ครับ ( เซตไว้เป็น WEP 64 Bit รหัส 10 ตัว )



ตัวอย่างที่ 2 : การตรวจสอบ Wireless Security ใน Router ที่ใช้ Firmware DD‐WRT ครับ ( เซตไว้เป็น WPA‐PSK/TKIP+AES รหัส 10 ตัว )



เริ่มต้นการตั้งค่า WISP Router Mode

     เปิด Browser เช่น IE, Google Chrome หรือ Firefox ขึ้นมา แล้วพิมพ์ http://192.168.2.1 ตรงช่อง Address แล้ว Enter



     เสร็จแล้วกรอก Username = admin และ Password = admin ในช่อง แล้วกดปุ่ม Login



     จะเข้าหน้าแรก Status ให้คลิกที่เมนูหลักด้านบน “ Quick Setup “ แล้วเลือก “ Router Mode “ เสร็จแล้วกดปุ่ม Next ครับ




     หน้าถัดมาให้ ตั้งชื่อ “ SSID “ ตามต้องการ เป็นชื่อ Wireless อะไรก็ได้ แล้วเลือก Security Mode เป็น “ WPA‐PSK/WPA2‐PSK “ และสุดท้ายกรอก “ Security Key “ หรือรหัสผ่าน Wireless ขั้นต่ำ 8 ตัว ( ตัวเลข หรือตัวอักษรก็ได้ หรือผสมกันก็ได้ ) เสร็จแล้วกดปุ่ม Next

Note : ชื่อ SSID กับรหัสผ่าน จะตั้งให้เหมือนตัวหลักก็ได้ หรือต่างกันก็ได้ แต่ถ้าตั้งชื่อ SSID ให้ต่างกันจะสามารถแยกแยะได้ว่า ขณะนั้นกำลังเชื่อมต่อ Wireless กับตัวหลัก หรือตัว Repeater ครับ



     ถัดมาให้เลือก Internet Connection เป็น Dynamic IP แล้วกดปุ่ม Next



     ในถัดมาให้กดปุ่ม Complete เพื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการเซตเป็น Router Wireless Mode



     ต่อมาให้กดปุ่ม OK ยืนยันการบันทึกค่าของ โดยอุปกรณ์จะทำการ Reboot




     รออุปกรณ์ Reboot จนเสร็จ 100% ครับ




     จะกลับมาหน้าต่าง Login ให้กรอก Username = admin และ Password = admin อีกครั้ง


     หลังจากกลับเข้ามาหน้าแรก ให้คลิกที่เมนูด้านบน Network  WAN Medium Type แล้ว จะมีให้กรอกค่าของตัวหลัก เช่นชื่อ SSID, MAC, Security Mode ก็ไม่ต้องกรอกค่าอะไรครับ ให้กดปุ่ม “ Scan “ เพื่อค้นหาชื่อ SSID ของตัวหลักที่ต้องการจะเชื่อมต่อ



     รอสักพักจะมีรายชื่อ Wireless ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง แสดงในตาราง ซึ่งจะมีชื่อ SSID ของตัวหลักด้วย และรายละเอียดที่ควรทราบ




     ให้เลือกชื่อ SSID ของตัวหลักที่ต้องการทำ Repeater แล้วค่าของตัวหลักจะถูกกรอกอัตโนมัติด้านบน ยกเว้น Security Mode ครับ




     ต่อไปให้เลือก Security Mode ให้ตรงกับที่ตั้งในตัวหลัก พร้อมกับกรอกรหัสผ่าน ตรงช่อง Security Key ให้ตรงกับตัวหลักด้วย

Note : ในตัวอย่างเป็นการตั้งรหัสผ่านตามตัวหลักที่ตั้งไว้เป็น WPA‐PSK / AES ครับ ( WPA2‐PSK ก็เลือกเหมือนกัน )



Note : ในกรณีที่ตัวหลักตั้ง Security Mode เป็น WEP ก็ให้เซตค่าตามตัวอย่างครับ




     หลังจากกด Save ตามข้อ 5.13 แล้ว จะมีให้กดปุ่ม OK เพื่อบันทึกค่า



     กดปุ่ม Reboot Now เพื่อ Reboot อุปกรณ์อีกครั้ง



     รออุปกรณ์ Reboot ถึง 100% ครับ


     หลังจาก Reboot เสร็จก็ให้กลับเข้าไปหน้า W1500A ใหม่ โดยกรอกรหัส admin / admin อีกครั้ง


     เข้ามาที่ เมนูหลัก Status > เมนูด้านซ้ายมือ WAN แล้วให้ดูบรรทัดของ “ Connection Status “ ว่าขึ้นเป็น Connected  หรือไม่ ถ้าขึ้น ก็หมายถึง การทำ WISP รับสัญญาณจากกับตัวหลักได้แล้ว

Note : ถ้าขึ้นเป็น Connecting ให้กลับไปเริ่มขั้นตอนการทำ Repeater ใหม่ ตั้งแต่ข้อ 5.3 ครับ น่าจะมีค่าใดค่าหนึ่งที่ไม่ถูกต้องครับ




วิธีการเปลี่ยน IP Address ( ตามหัวข้อ 3 )

     คลิกที่เมนูหลัก Network ( 1 )  เมนู LAN แล้วกรอก IP Address ในช่องแรก ให้อยู่คนละวง LAN กับตัวหลักครับ ตัวอย่างเช่น ถ้าตัวหลักเป็น 192.168.2.1 ก็เปลี่ยน IP Address ของ W1500A เป็น 192.168.0.1 เป็นต้น ( ดูตัวอย่างการตรวจสอบ LAN IP Address ของตัวหลักจากข้อ 3 ) ส่วน Gateway กับ DNS ให้กรอก IP Address ของ Router ตัวหลัก แล้ว กดปุ่ม Save ( 4 ) ครับ

Note: กรณีที่ Router ตัวหลักเป็น IP Address คนละวงกับ W1500A ก็ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงค่าของ LAN นะครับ



     จะขึ้นหน้าต่างแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับผลของการเปลี่ยน IP Address ว่า “ หลังจากเปลี่ยน IP Address แล้ว ให้ทำการเปลี่ยนค่า IP Address ในเครื่อง Computer PC ที่กำลังตั้งค่าอยู่นี้ เป็นเลขชุดเดียวกับ วง LAN ที่เปลี่ยนใหม่ครับ “ ให้กดปุ่ม OK เพื่อยืนยัน



     กดปุ่ม Reboot Now และรอตัวอุปกรณ์ Reboot ให้ครบ 100% เพื่อเสร็จสิ้นขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงค่า IP Address ครับ



    หลังจาก Reboot เสร็จแล้ว ให้สลับมาที่ Windows เพื่อเปลี่ยน IP Address ของ Local Area Connection จากที่ Fix IP Address ไว้กลับไปเป็นการรับ IP Address แบบ Auto หรือ Obtain an IP address โดยเข้าไปที่ Local Area Connection Properties > Internet Protocol Version 4 ( TCP/IPv4 ) ตามรูปตัวอย่าง



     ให้ไปที่ Local Area Connection Status > Tab Support ( สำหรับ Windows XP ) หรือ Local Area Connection Detail ( สำหรับ Windows Vista, 7 ) เพื่อดูว่าได้รับ IP Address วงใหม่ มาหรือยังครับ ถ้าได้รับ Auto มาเป็นวงใหม่ก็ถือว่าเรียบร้อยครับ



Note : หลังจากที่เชื่อมต่อ Wireless กับ Access Point เสร็จแล้ว ถ้าจะเข้าหน้า Config ของ W1500A ต้องเข้าด้วย IP Address ใหม่นะครับ



วิธีการเชื่อมต่อ Wireless กับ Access Point

     คลิกไอคอน Wireless Network ของ Windows แล้วจะเจอชื่อ Wireless ที่ได้เปลี่ยนชื่อไปแล้ว ให้คลิกที่ชื่อแล้ว กดปุ่ม Connect




     จะขึ้นกรอบมาให้ กรอก Security Key ให้กรอกรหัสให้ถูกต้อง แล้วกดปุ่ม OK ครับ


     รอ Wireless ของเครื่องรับ IP Address สักครู่ จนสถานการณ์เชื่อมต่อขึ้นว่า “ Connected “ ดังรูป ก็แปลว่าเรียบร้อยแล้วครับ



วิธีตรวจสอบสัญญาณ และปรับจูนให้สัญญาณของตัวหลักดีขึ้น


     ในกรณีที่ไม่แน่ใจว่า สัญญาณตัวหลักกับตัว Repeater เชื่อมต่อกันดีแล้วหรือไม่ ให้เข้ามาที่ Optimum Position แล้วทำตามขั้นตอนดังนี้